Home

วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวเวียดนามแบบ Back pack


สวัสดีค่ะทุกท่าน หลังจากที่ทำบล็อกมาพอเป็นพิธีแล้ว คราวนี้ก็ต้องถึงรอบที่เราจะหาเรื่องราวมาใส่บล็อก ทำยังไง จะก๊อบปี้คนอื่น ก็มิใช่วิสัย หันมามองข้อมูลที่ตัวเองมีภายในเมมโมรี่ความจำ ก็ดันไปนึกถึงเรื่องเที่ยวที่ตนเองไปเจอะเจอมา ทั้งเรื่องสนุกและเซ็งสุดชีวิต เอาเป็นว่าวันนี้ forelady ขอพาทุกท่านไปเที่ยวเวียดนามฉบับ "ลุยเดี่ยว" กันเลยค่ะ

ต้นเหตุของการอยากไปเที่ยวเวียดนาม
หลังจากที่ได้รู้จักกับพี่สุดหล่อท่านหนึ่ง(มีศักดิ์เป็นญาติกันซะงั้น) แกเป็นหนุ่มที่คลั่งไคล้การท่องเที่ยวมาก ถึงไม่ไปเที่ยวต่างประเทศ พี่แกก็จะชอบเที่ยวในเมืองไทยในสไตล์แอดแวนเจอร์ (บุกๆ ลุยๆ อะไรประมาณนั้น) ไปเยี่ยมบ้านพี่แกทีไรก็จะเห็นแต่ภาพถ่ายที่แกไปเที่ยวหลายจังหวัด หลายประเทศ และก็หลายอารมณ์ ซึ่งมันทำให้ forelady รู้สึกว่าพี่แกช่างให้กำไรกับชีวิตได้คุ้มจริงๆ ....เอาละไม่ได้การละ เราจะมัวทำแต่งานอยู่อย่างนี้ไม่ได้...ประเดี๋ยวแก่มาจะไม่มีแรงไปเที่ยว (555) พอมีความคิดแบบนี้แล่นเข้าหัว ก็เริ่ม Search ข้อมูลท่องเที่ยวต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต และสุดท้ายก็มาโป๊ะเช๊ะที่ จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวเวียดนาม 3 บาท กับนกแอร์ forelady จัดการ booking ทันทีค่ะ เบ็ดเสร็จก็ ค่าตั๋วเครื่องบิน 3 บาท บวก ค่าภาษี ค่าประกัน ค่าน้ำมัน และค่าโน้นค่านี่ ก็รวมไปทั้งสิ้นพันห้าร้อยกว่าบาท คิดยังไงไม่รู้พอหลังจากจองตั๋วขาไปแล้ว อีกวันต่อมากลับมาจองขากลับ อันที่จริงแล้วเราไม่จองตั๋วขากลับทางเครื่องบินก็ได้ เพราะเราสามารถที่จะเที่ยวต่อไปยังประเทศลาว โดยรถโดยสาร และค่อยไหลมาเรื่อยๆ จนถึงเมืองไทย ซึ่งหลายท่านก็อาจชอบการท่องเที่ยวสไตล์นี้... (เดี๋ยวไว้จะเล่าให้ฟังในช่วงหลัง ว่าโชคดีเหลือเกินที่จองตัวขากลับไว้) ส่วนเรื่องราคาจะแตกต่างกันตามช่วงเวลาที่จองอยู่แล้ว) สำหรับราคาตั๋วเครื่องบินขากลับก็อยู่ที่ประมาณพันเจ็ดกว่าๆ รวมค่าเดินทางไปเที่ยวเวียดนามครั้งนี้เฉพาะค่าเครื่องบินทั้งหมดก็สามพันกว่าบาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย ในที่สุดก็เลือกวันเดือนทาง 5-9 มีนาคม 2551

การเตรียมตัวไปเที่ยวและการหาข้อมูล
สำหรับทิปนี้ forelady มีคู่มือในการท่องเที่ยวเป็นหนังสือของคุณดอกไม้ขาว (ชื่อหนังสือลุยเดี่ยวเที่ยวเวียดนาม : ไกด์ดีมีความสุข 3 )ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเวียดนามเล่าผ่านไปยังทุกที่ ที่คุณดอกไม้ขาวไปเยี่ยมเยียน โดยเส้นทางจะไปทางเวียดนามตอนใต้ ยังไงก็หาซื้อมาอ่านได้ค่ะ (และ forelady ซื้อมาอ่านเพื่อเป็นไกด์ให้ตัวเองเท่านั้นค่ะ) เพราะความจริงแล้วมันผิดไปจากที่เราตั้งโปรแกรมไว้ซะสิ้น ไม่เหมือนพี่เค้าเลย ฮือๆๆ สำหรับแผนที่สถานที่ที่เราจะไปเที่ยวนั้นก็สั่งปริ้นท์ออกมาจากอินเตอร์เน็ตเพราะมีบริการหลายเวปไซต์มากค่ะ ที่สำคัญ อย่าลืมเช็คค่าเงินของเวียดนาม และสกุลเงินดอลล่าร์ด้วยนะค่ะ หลายท่านอาจจะแลกเปลี่ยนเงินที่สนามบินที่เมืองไทยไว้เลยก็แล้วแต่สะดวก หรือจะไปแลกกันสดๆ ที่สนามบินเวียดนามก็ได้ แต่อันนี้ต้องระวังหน่อยเพราะเดี๋ยวจะโดนพวกมิจฉาชีพทั้งหลายจ้องเอาค่ะ แน่ะนำอีกอย่างควรแลกเป็นเงินสกุลกลางไว้ก่อน...ก่อนที่จะแลกเป็นเงิน ดอง เพราะที่นั่นเค้าไม่รับเงินไทยค่ะ (ลองดูแล้ว)

ถึงเวลาจัดเตรียมกระเป๋า Back pack
ก็ได้กระเป๋าคู่ใจมาหนึ่งใบ หาซื้อตอนไปเดินจตุจักร ชอบมากเพราะมันดูไม่ใหญ่เหมือนกับที่ฝรั่งเค้าใช้ Back pack กัน และถ้าจะให้เราไปแบกเป้มหึมาเหมือนฝรั่งก็ใช่ที่ เพราะเรามิได้ไปเที่ยวไหนทีใช้เวลาเที่ยวเป็นเดือนๆ เหมือนเค้า ทิปนี้ก็แค่ 5 วัน กระเป๋าใบนี้แร่ะเหมาะกับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่าง forelady มาก เพราะตั้งใจจะไปเที่ยวกับบุกๆ ลุยๆ อยู่แล้ว มาดูสิว่า forelady จับอะไรลงไปในกระเป๋ามั่ง
  • กางเกงยีนส์ตัวเก่ง 2 ตัว
  • เสื้อยืดสบายๆ 4 ตัว
  • เสื้อกล้าม 1 ตัว
  • ชุดชั้นใน (อันนี้เอาไปครบวันเลย 555 กะว่าใส่ชุดละวัน ค่อยรวบกลับมาซักที่บ้าน) เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เวียนซักตอนไปเที่ยวมั้ย เผื่อฉุกละหุก
  • กางเกงเลย์ผ้าเบาไว้ใส่นอน 2 ตัว ซึ่งก็ไม่ได้ใส่ไปทำสกปรกที่ไหน (ใส่เฉพาะแค่ตอนนอนเท่านั้น)
  • อุปกรณ์ช่วยสวย (นิดๆ หน่อยๆ เช่นลิปมัน มินิเมกอัพ เผื่อว่าจะมีหนุ่มๆ มาปิ๊ง...จะได้ไม่นึกเสียดายทีหลัง)
  • รองเท้าแต่ะ 1 คู่ ส่วนรองเท้าที่ใส่จะตลอดจะเป็นผ้าใบ เพราะคล่องตัวดี
  • แผนที่และโปรแกรมเที่ยวที่ตัวเองวางแผนไว้
  • ไม่ลืมที่จะเตรียมยาพาราเซตามอล, ยาน็อกซี่(แก้อาการถ่ายท้องเสียฉับพลัน) ไว้ยามเกิดไม่สบายหรือมีอะไรฉุกเฉิน สำหรับใครที่มียาประจำตัวก็อย่าลืมนำไปด้วยนะค่ะ
  • กล้อง 2 ตัว พร้อมถ่านและที่ชาร์ต จริงๆ แล้วไม่รู้จะเอาไปทำไมต้อง 2 ตัว แต่ด้วยความเห่อที่พึ่งซื้อกล้องของตัวเองมาใหม่ และพอดีกับพี่สาวยกกล้องตัวที่เราชอบและเคยขอ มาให้ซะงั้น
  • ผ้าขาวเช็ดหน้าส่วนตัวซัก 1 ผืน
  • ผ้าห่มผืนบางสารพัดประโยชน์ ใช้ห่มก็ได้ ใช้เช็ดตัวก็ได้ ใช้ปูนอนก็ได้ ทำเป็นหมอนก็ได้
  • มีดพกอันเล็กๆ สารพัดประโยชน์ มีทั้งกรรไกรเล็ก มีดเล็ก ตะไบเล็บ ไขควง และที่สำคัญเป็นมีดพกที่มีแฮนดี้ไดร์ด้วย อันนี้ไม่ต้องห่วงเพราะตั้งใจจะโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องอยู่แล้ว
  • forelady ได้ของฝากจากพี่สาวเป็นชุดอาบน้ำที่เค้าแจกบนเครื่องบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ กระทัดรัดมากค่ะ ก็จะมีแชมพู ครีมนวด และครีมอาบน้ำ พอใช้หมดแล้วด้วยความเสียดายเพราะเซ็ทมันน่ารักดี forelady ก็จะเติมของที่บ้านลงไปถ้าหากเดินทางไปอบรมก็จะมีเซ็ทนี้ในกระเป๋า สะอาดด้วยค่ะเป็นระเบียบ ช่วยให้เสื้อของคุณไม่เปียกเพราะโดนพวกสบู่เหล่านี้ อีกทั้งในกระเป๋าเล็กใบนี้ยังสามารถใส่แปรงสีฟันและยาสีฟันขนาดเล็กไว้ได้พอดีด้วย

ดูเหมือนว่าจะเตรียมของเยอะแยะไปหมด แต่จริงๆ แล้วมันไม่เยอะอย่างที่คิดค่ะ เพราะของที่เตรียมส่วนใหญ่ forelady เลือกที่จะใช้แบบมินิ กินพื้นที่ในกระเป๋าไม่มาก เอาแล้วค่ะ.....ใกล้จะได้เดินทางแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมตั๋วเครื่องบิน,ใบจองตั๋ว หรือหลักฐานการ booking ไปด้วยนะค่ะ

...........ฉบับหน้า มีอะไรมันส์ๆ ลุ้นระทึกกับเหตุการณ์ก่อนขึ้นเครื่องด้วยค่ะ เดี๋ยวจะมาอัพให้อ่านอดใจรอนิดหนึ่งนะค่ะ

ps.forelady

ผู้หญิงอย่างเรา..มาทำน้ำมันกุหลาบใช้กันเองดีกว่า

ผู้หญิงอย่างเรา..มาทำน้ำมันกุหลาบใช้กันเองดีกว่า

กุหลาบเป็นของคู่กับวาเลนไทน์ สื่อถึงความหมายของความรัก

และกุหลาบแต่ละสีก็มีความหมายในตัวเอง

  • กุหลาบสีแดง หมายถึง ความรัก ความเคารพ ยกย่อง
  • สีชมพูอ่อน หมายถึง เทิดทูนบูชา เห็นอกเห็นใจ
  • สีชมพูแก่ หมายถึง ความกตัญญู ซาบซึ้งในน้ำใจ
  • สีเหลือง หมายถึง ความสนุกสนาน มิตรภาพ
  • สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์
  • สีส้ม หมายถึง ความกระตือรือล้น
  • สีแดง และ สีเหลือง ผสมกัน หมายถึง ความร่าเริงเบิกบาน
  • สีลาเวนเดอร์ หมายถึง ความมีเสน่ห์ น่าลุ่มหลง
  • สีดำ หมายถึง บางคนก็ว่าหมายถึงความรักที่อมตะ,ความรักที่หวังผลตอบแทน
  • ดอกกุหลาบตูม สีแดง หมายถึง บริสุทธิ์ น่ารัก
  • ดอกกุหลาบตูม สีขาว หมายถึง ความเป็นสาวเยาว์วัย
  • ดอกกุหลาบบานเต็มที่ดอกเดียว หมายถึง ฉันรักเธอ
  • ดอกกุหลาบบานเต็มที่ทั้งช่อ หมายถึงความซาบซึ้งในน้ำใจ
  • ดอกกุหลาบบานเต็มที่ 12 ดอก หมายถึง ซึ้งในบุญคุณ
  • ดอกกุหลาบ 25 ดอก หมายถึง แสดงความยินดี
  • ดอกกุหลาบ 50 ดอก หมายถึง รักที่ไร้เงื่อนไข

กุหลาบแต่ละสีแต่ละลักษณะก็มีความหมายแตกต่างกันไป แล้วแต่ใครจะชอบ
forelady เอง โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบกุหลาบสีแดง เพราะคลาสสิคที่สุด
เอาละค่ะเรามาพูดถึงเรื่อง "น้ำมันกุหลาบ" กันดีกว่า น้ำมันกุหลาบมีคุณสมบัติ
ป็นน้ำมันที่ดีต่อผิวพรรณ รวมทั้งมีกลิ่นหอมที่ช่วยบรรเทาความเครียดและความหงุดหงิดได้เป็นอย่างดี
มาลองทำน้ำมันกุหลาบใช้เองที่บ้าน แม้จะไม่มีคุณสมบัติเท่ากับน้ำมันกุหลาบ
จากร้าน แต่ก็สามารถใช้ได้ดีสำหรับการนวดตัวหรือทาผิว
วิธีทำ
*1* เลือกกลีบกุหลาบสดสักสองสามกำมือ เลือกที่ดอกไม่ช้ำและดอกที่ไม่มีรอยแมลงถ้าเป็นกุหลาบปลูกเองที่บ้านก็เลือกเก็บในตอนเช้าที่กลีบกุหลาบยังสดชื่นด้วยหยาดน้ำค้าง อันนี้จะยิ่งดีใหญ่

*2* บี้กลีบกุหลาบเบา ๆ เพื่อช่วยให้กลิ่นและน้ำมันหลั่งออกมา อย่าบี้แรงนะคะเพราะกลิ่นที่ได้จะมีกลิ่นฉุนๆ ติดออกมาด้วย ทำให้กลิ่นไม่สมูท

*3*เอา กลีบกุหลาบที่บี้แล้วใส่ในโหลแก้วใบใหญ่แบบมีฝาปิด และเทน้ำมัน (เช่น น้ำมันโจโจบา น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอกคุณภาพดี) ลงไปให้ท่วมกลีบดอกไม้ ปิดฝาขวดให้สนิทและปล่อยทิ้งไว้ 24 ชม.

*4*หลังจากนั้นเอากลีบกุหลาบออกจากน้ำมันเมื่อครบ 24 ชม. แล้วกรองน้ำมันอีกครั้งเพื่อขจัดเศษผงที่ตกค้างอยู่

*5*เติมกลีบกุหลาบสดเข้าไปอีกครั้ง(5-10 กลีบ)และปล่อยทิ้งไว้อีก 24 ชม.

*6*เอา กลีบกุหลาบออกและกรองน้ำมันอีกครั้ง แล้วใส่กลีบกุหลาบลงไปอีก
ทำซ้ำตามขั้นตอนนี้อีกราว 6-7 ครั้ง จนกระทั่งได้น้ำมันกลิ่นกุหลาบ และเทใส่ขวดเอาไว้ใช้ตามต้องการ

แค่นี้เราก็ได้น้ำมันกุหลาบที่มีกลิ่นหอม และที่สำคัญเกิดความภูมิใจเพราะเป็นสิ่งที่
ทำจากฝีมือเราเอง อีกทั้งยังสามารถทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้เพราะเป็นงานที่อิสระสามารถทำเองได้ที่บ้านของคุณเพียงแค่ฝึกฝนจนชำนาญและสามารถออกขายสู่ท้องตลาดได้..อย่าลืมนะค่ะ Everyting can do by yourself

ps.forelady

วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สูตรลดน้ำหนักฉบับทดลองเอง..ลดจริงไม่อิงนิยาย



คุณสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 6 กิโลกรัม ใน 1 สัปดาห์
(หลังจาก 7 วันที่ทำแล้วสามารถทานได้ปกติโดยที่น้ำหนักไม่ขึ้น หากทำตามสูตรและทานน้ำเปล่าเยอะๆ)

หมายเหตุ : ก่อนการปฏิบัติสูตรนี้ทุกครั้งให้ดื่มน้ำอย่างน้อย 2 แก้ว งดน้ำตาล น้ำมันหมู ของทอดทุกชนิด

วันแรก
  • มื้อเช้า : น้ำส้มคั้นสด หรือ โยเกริต์รสธรรมชาติ

  • มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง

  • มื้อเย็น : สลัดผลไม้

  • หลัง 17.00 น. ห้ามรับประทาน ยกเว้นน้ำดื่ม(ดื่มได้ตลอด)

วันที่สอง

  • มื้อเช้า : น้ำส้มคั้นสด หรือ กาแฟดำ(ไม่ใส่น้ำตาล,ครีมเทียม)

  • มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง

  • มื้อเย็น : โยเกริต์รสธรรมชาติ

วันที่สาม

  • มื้อเช้า : โยเกริต์รสธรรมชาติ หรือ กาแฟดำ(ไม่ใส่น้ำตาล,ครีมเทียม)

  • มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู

  • มื้อเย็น : สลัดผลไม้

วันที่สี่

  • มื้อเช้า : น้ำส้มคั้นสด หรือ กาแฟดำ(ไม่ใส่น้ำตาล,ครีมเทียม)

  • มื้อกลางวัน : ส้มตำ (ไม่ใส่น้ำตาล) และปลาดุกย่าง 1 ตัว

  • มื้อเย็น : โยเกิร์ต

วันที่ห้า

  • มื้อเช้า : กาแฟดำ (ไม่ใส่น้ำตาล,ครีมเทียม)

  • มื้อกลางวัน : ส้มตำ (ไม่ใส่น้ำตาล) และปลาดุกย่าง 1 ตัว

  • มื้อเย็น : สัปรด 1 ส่วน

วันที่หก

  • มื้อเช้า : โยเกริต์รสธรรมชาติ หรือ กาแฟดำ(ไม่ใส่น้ำตาล,ครีมเทียม)

  • มื้อกลางวัน : ปลานิลนึ่งครึ่งตัวกับเห็ดลวก

  • มื้อเย็น : นมเปรี้ยวไขมัน 0% 1 แก้ว

วันที่เจ็ด

  • มื้อเช้า : ข้าวสวย 1 ทัพพีพร้อมไข่ต้ม 1 ฟอง และ กาแฟดำ(ไม่ใส่น้ำตาล,ครีมเทียม)

  • มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู

  • มื้อเย็น : แอ๊ปเปิ้ล 1 ลูก

วิธีทำสลัดผลไม้แบบฉบับใช้ในการลดน้ำหนัก

ส่วนผสม

  • ผลไม้หลากชนิด
  • โยเกริต์รสธรรมชาติ
  • นมเปรี้ยวบีทาเก้น ไขมัน 0% รสอะไรก็ได้
  • ใบสระแหน่

วิธีทำ (กะปริมาณสำหรับตัวเองอิ่มหรือสำหรับ 1 ที่)

1.เลือกผลไม้ที่ชอบและสอดคล้องกับการลดน้ำหนัก เช่น ส้ม,แอ๊ปเปิ้ล,องุ่น,แก้วมังกร เป็นต้น นำผลไม้มาหั่นให้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า

2.เทนมเปรี้ยวบีทาเก้น ไขมัน 0% (ขวด 10 บาท) ลงไป

3.ตักโยเกริต์สักครึ่งถ้วย ราดหน้า

4.ตกแต่งด้วยใบสระแหน่ 7-8 ใบ (สระแหน่มีประโยชน์หลายอย่าง,ทำให้ลมหายใจสดชื่น,และกลิ่นหอม)

แค่นี้คุณก็จะได้สลัดผลไม้ที่เหมาะแก่การลดน้ำหนักที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน,หรือไขมันต่างๆ มากวนใจ ผู้เขียนเองต้องขอบอกไว้ก่อนว่า สูตรลดน้ำหนักข้างบนดัดแปลงมาจากสูตรอาหารลดน้ำหนักพระราชทานของสมเด็จพระเทพฯ และเพื่อให้สอดคล้องกับตัวเองสามารถปฏิบัติได้จริง จึงได้เปลี่ยนแปลงบางเมนูซึ่งก็สามารถช่วยให้ตนเองลดน้ำหนักได้จริง ถึง 6 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์

แต่ต้องของบอกก่อนว่า สูตรอาหารลดน้ำหนักเกือบทุกสูตรจะใช้ได้ผลดีใน 1 สัปดาห์แรกเท่านั้น เพราะร่างกายของเราไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานหนัก น้ำหนักจะลดลงมากอย่างเห็นได้ชัด

และสำหรับในสัปดาห์ที่ 2 บางท่านอาจจะลดได้อีก 1-2 กิโลกรัม และบางท่านอาจไม่ลดเลย(ถึงแม้จะทำตามสูตรเป๊ะเหมือนสัปดาห์แรก)อย่าไปกังวล นั่นก็เป็นเพราะว่าร่างกายของท่านได้ปรับไปตามพฤติกรรมการรับประทาน แล้วระบบการย่อยหรือเผาผลาญจะเริ่มชิน อาจจะทำงานไม่เหมือนสัปดาห์แรกยังไงผู้เขียนก็ขอเอาใจช่วยนะค่ะ

ความฝันอยู่ไม่ไกล หากตั้งใจจะทำ หนทางยังไม่สิ้น เราก็ดิ้นให้สุดๆ

(ไม่สงวนบทความ..ขอแค่เครดิตเล็กๆ จากท่านก็เพียงพอ โดยการทำลิงค์ให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ)

จบแล้วค่ะ.
















วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เวปบอร์ดของเรา เพื่อนพ้องสองสี่




อีกช่องทางหนึ่งที่เพื่อนๆ สว่างแดนดิน 24 สามารถเข้าไปพบป่ะพูดคุยกันได้
และที่เพิ่งผ่านพ้นไปกับกิจกรรมดีๆ
ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวกันครั้งแรกด้วยกว่าได้ของเพื่อนๆในรุ่น ที่ต่างก็แยกย้ายไปตามเส้นทางของแต่ละคน
แต่ก็ยังส่งข่าวคราวถึงกัน ตลอดด้วยความห่วงใย มิตรภาพ และความคิดถึงกัน

หรือเข้าไปที่



รูปเคลื่อนไหว

ครัวอิสานบ้านนายกอ